กว่าจะเป็น...โพธิ์หยกสมุนไพร
คุณภควัต เกาก่อสกุล ประธานบริษัท โพธิ์หยกสมุนไพร จำกัด คนไทยเชื้อสายจีนยูนนานมีความสามารถ
พิเศษในการสื่อสารภาษาจีนได้เป็นอย่างดีตั้งแต่วัยเยาว์จึงได้เลือกที่จะประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ให้แก่นักท่อง
เที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นระยะเวลานานหลายปีจนกระทั่งวันหนึ่งท่านได้สังเกตเห็น
ว่าการท่องเที่ยวของชาวต่างชาตินั้นส่วนใหญ่จะเป็นการทำกิจกรรมนอกสถานที่ ต้องพบเจอกับแสงแดดและ
อากาศที่ร้อนระอุ อีกทั้งบางสถานที่ต้องใช้การเดินเป็นระยะเวลานานกว่าจะไปถึงที่หมาย ทำให้ช่วงระยะเวลาที่
กำลังท่องเที่ยวอยู่นั้นอาจประสบปัญหาปวดเมื่อย หน้ามืด ตาลาย ปวดศีรษะ วิงเวียนและอาจถูกยุงหรือแมลง
กัดต่อยในเวลากลางคืนได้ ท่านจึงคิดว่าเหตุใดเราจึงไม่แนะนำยาหม่องสมุนไพรที่เป็นยาสามัญประจำบ้านของ
ประเทศไทยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรู้จัก เพราะโดยส่วนตัวแล้วสมัยที่ตนเองยังเป็นเด็ก เมื่อโดนยุงหรือ
แมลงกัดต่อย วิ่งแล้วหกล้มจนเกิดอาการฟกช้ำหรือเขียวช้ำตามร่างกายแม่ก็จะนำยาหม่องเขียวมาทาให้ตาม
บริเวณต่างๆ บนร่างกายที่มีอาการ ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณภควัตอยากนำยาหม่อง
สมุนไพรที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาชาวบ้านสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นและมีสรรพคุณหลากหลายมาเป็นสินค้าที่
แสดงให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้เห็นถึงศักยภาพในการบำบัดและรักษาอาการต่างๆ ด้วยสมุนไพรจาก
ประเทศไทย
คุณภควัตเคยกล่าวไว้ว่าเมื่อได้สินค้าแล้วสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลย คือ “เครื่องหมายการค้า” เนื่องจาก
เครื่องหมายการค้าจะช่วยสร้างภาพจำภายในใจให้แก่ผู้บริโภค หากเราต้องการให้ผู้บริโภครู้จักหรือจำสินค้า
ว่ามาจากประเทศไทยก็ควรใช้เครื่องหมายการค้าที่สื่อสารความเป็นไทยได้เป็นอย่างดี ท่านจึงได้เลือกใช้ “ต้น
โพธิ์” เพราะประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศไทยนับถือศาสนาพุทธและต้นโพธิ์ถือเป็นตัวแทนของพุทธศาสนิกชน
ได้เป็นอย่างดี และเมื่อมองกลับไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวจีน สิ่งที่มีค่าและล้ำค่ามากที่สุดของประเทศ
จีน คือ “หยก” เมื่อนำ 2 คำนี้มารวมกันจึงกลายเป็นเครื่องหมายการค้า “
” ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีเครื่องหมายการค้าที่ท่านได้ใช้เป็นโลโก้ของบริษัท เครื่องหมายการค้าดังกล่าวเกิดจากการ
ที่ท่านพยายามจะออกแบบเครื่องหมายการค้าที่มีลักษณะคล้ายกับต้นโพธิ์ จึงได้ลองวาดเป็นภาพร่างก่อนนำส่ง
ให้กราฟฟิคช่วยออกแบบเพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้จริงและมีความเป็นสากลมากขึ้น 
ด้วยการผลิตยาแผนโบราณตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช 2510 มีข้อกำหนดว่าการจะผลิตยาจาก
สมุนไพรหรือยาแผนโบราณในรูปแบบใดก็ตามจำเป็นที่จะต้องมีสถานที่ผลิตยาที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจาก
สำนักยา กระทรวงสาธาณสุขก่อน จากนั้นจึงจะสามารถยื่นคำขอขึ้นทะเบียนตำรับยาเมื่อได้รับการพิจารณา
อนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับจึงจะสามารถดำเนินการผลิตยาเพื่อจำหน่ายได้ คุณภควัตจึงได้ปรึกษาหารือกับที่
ปรึกษาซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านยาสมุนไพรในการคิดค้นสูตรตำรับ โดยในระยะแรกได้ทดลองผลิตยาหม่องสมุนไพร
อย่างง่ายแจกจ่ายให้แก่ญาติพี่น้องซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจึงได้ร่วมมือกับบริษัท เอดส์ มะเร็ง สหการ
จำกัด (ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เฮิร์บไทจง จำกัด) ภายใต้คำแนะนำของที่ปรึกษาซึ่งมีความรู้จักกับบริษัท
ดังกล่าวมาก่อน เนื่องจากบริษัท โพธิ์หยกสมุนไพร จำกัด เดิมทียังไม่มีสถานที่ผลิตยาแผนโบราณเป็นของ
ตนเอง จึงได้ให้บริษัท เอดส์ มะเร็ง สหการ เป็นผู้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนตำรับ “ยาหม่องตราโพธิ์หยกสมุนไพร”
ในเวลาต่อมา คุณภควัต เกาก่อสกุลได้ก่อตั้งบริษัทเป็นของตนเองโดยใช้ชื่อว่า "บริษัท โพธิ์หยกสมุนไพร
จำกัด" เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557 และได้ดำเนินการก่อสร้างสถานที่ผลิตยาแผน
โบราณแห่งแรกขึ้นที่ ลาดพร้าววังหิน ซอย 43 โดยได้รับอนุญาตให้เป็นสถานที่ผลิตยาแผนโบราณอย่างถูกต้อง
จากสำนักยา กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 จึงได้ดำเนินการขอขึ้นทะเบียนตำรับยาใน
นามของบริษัทเอง โดยปัจจุบันมีทะเบียนตำรับยาที่ได้รับอนุมัติแล้วจำนวนทั้งสิ้น 6 ทะเบียนตำรับ ประกอบด้วย
ยาหม่องตราโพธิ์หยกสมุนไพร ทะเบียนยาเลขที่ G 321/58
ยาหม่องตราโพธิ์หยกสมุนไพร สูตร 2 ทะเบียนยาเลขที่ G 227/59
ยาหม่องตราโพธิ์เฮิร์บ ทะเบียนยาเลขที่ G 402/58
ยาหม่องตราโพธิ์เฮิร์บ สูตร 2 ทะเบียนยาเลขที่ G 54/60
ยานวดสมุนไพร ตราพนาไพล ทะเบียนยาเลขที่ G 87/59
ยานวดสมุนไพร ตราพนาไพล สูตร 2 ทะเบียนยาเลขที่ G 793/59
โดยทุกตำรับเกิดขึ้นจากการคิดค้นและพัฒนาสูตรตำรับจากแนวคิดของคุณภควัตเอง เนื่องจากต้องการให้
สินค้าที่ถูกผลิตโดยบริษัท โพธิ์หยกสมุนไพร จำกัดเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมากที่สุดและคำนึงถึงความปลอดภัย
ต่อผู้บริโภคเป็นอันดับแรก ทำให้ความต้องการสินค้าของผู้บริโภคในแต่ละสูตรตำรับโดยเฉพาะยาหม่องตรา
โพธิ์หยกสมุนไพร สูตร 2 และยาหม่องตราโพธิ์เฮิร์บ สูตร 2 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่ม
สถานที่ผลิตยาแผนโบราณแห่งที่ 2 ขึ้นที่จังหวัดปทุมธานีเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการของผู้บริโภคได้
อย่างทั่วถึงในปี 2018
สถานที่ผลิตยาแผนโบราณ แห่งที่ 2 จังหวัดปทุมธานีได้วางโครงสร้างและดำเนินการก่อสร้างตามมาตรฐาน
การผลิตยาของประเทศในสหภาพยุโรป PICs (Pharmaceutical Inspection Co – operation Scheme)
รวมถึงดำเนินการผลิตตามหลักเกณฑ์และวิธีการผลิตที่ดี (Good Manufacturing Practice) เพื่อผลักดันให้ยา
สมุนไพรก้าวไกลสู่มาตรฐานสากล นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้มีโครงการในการเปิดร้านขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท
โดยเฉพาะที่ถนนคนเดินที่มีกำหนดเปิดในเดือนตุลาคม ปี 2018